Month: February 2017

กลายเป็นกระแสที่รุนแรงมากๆเกิดขึ้นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของนักเตะเมื่อ ลิโอเนล เมสซี่ สุดยอดนักเตะระดับโลกของทีมชาติ อาร์เจนจิน่า แห่ง บาร์เซโลน่า ทีมดังจาก ลา ลีกา สเปน เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ 5 สมัย ถูกสำนักข่าวของ ประเทศ อิยิปต์ หลายสำนักออกมาวิจารณ์ กรณีที่ เมสซี่ นั้นบริจาค รองเท้าสตั๊ต เพื่อใช้ในงานประมูลและนำรายได้นั้นมอบให้กับเด็กเยาวชนของ อิยิปต์ แต่ทว่าตามธรรมเนียมของ อียิปต์ นั้นรองเท้าถือว่าเป็นสิ่งของที่สกปรกที่สุด จึงเห็นไม่สมควรให้ บริจาค อะไรแบบนี้

โดย ซาอิด ฮาซาซิน พิธีกรข่าวของ อียิปต์ ก็ได้ออกมาตำหนิการกระทำของ เมสซี่ ทันที โดยได้ถอดรองเท้าของเขา และพูดออกผ่านรายการข่าวสดว่า “ ชาวอียิปต์ไม่เคยอับอายในอารธธรรมของพวกเราเป็นเวลาเกือบ 7,000 ปีแล้ว การที่นายทำแบบนี้(บริจาค)กับพวกเราถือว่าไม่ให้เกียรติกันเลยนะ เมสซี่ และนี้คือรองเท้าของฉัน ฉันจะฟาดนายด้วยอันนี้ และฉันก็ขอบริจาคให้กับ อาร์เจนจิน่า ”

แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายคนออกมาปกป้อง เมสซี่ เช่นกัน  อย่าง รายการ I’m Famous, non zero giving “ ออกมาปกป้อง เมสซี่ โดยระบุเอาไว้ว่า “ หลายคนกำลังเข้าใจผิดในตัวกัปตันทีม อาร์เจนจิน่า มีการพูดอธิบายว่าเขาขอให้ เมสซี่ บริจาค สิ่งของบางอย่างที่จะนำไปประมูลและนำเงินที่ประมูลนั้นไปมอบให้กับ เยาวชนยากไร้ของ อิยิปต์ และนั้นก็เป็น รองเท้าสต้๊ค ที่เป็นหัวใจหลักของนักฟุตบอล และผมคิดว่าเขากำลังเข้าใจผิดถึงธรรมเนียมเหล่านั้น พวกคุณควรจะใจเย็นลงให้มากกว่านี้ สตั๊ค นั้นเป็นหัวใจของนักกีฬาฟุตบอลจริงๆ ”

 

เป็นการจากไปของนักเตะระดับตำนานอีกรายหนึ่งแล้ว โยฮัน ครัฟฟ์ สุดยอดนักเตะระดับตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของ ทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ แห่ง บาร์เซโลน่า ทีมดังจาก ลา ลีกา สเปน ได้เสียชีวิตจากโรค มะเร็ง แล้วในวันที่ 24 มีนาคม 2016 นี้เองภายใน โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในประเทศ สเปน จากการรายงานของเว็บไซด์อย่างเป็นทางการของ โยฮัน ครัฟฟ์ เอง

โดย โยฮัน ครัฟฟ์ นั้นก่อนหน้านี้ก็ได้เข้ารับการผ่าตัดด้านหัวใจเมื่อช่วงเดือน ตุลาคม ปี 2015 ที่ผ่านมานั้นแต่ในตอนนี้เองซึ่งทาง เว็บไซด์ worldofjohancruyff.com ได้ประกาศข่าวอันน่าช็อคโลกนี้เองโดยได้ระบุเอาไว้ว่า “ ในวันที่ 24 มีนาคม 2016 โจฮัน ครัฟฟ์ วัย 68 ปีเสียชีวิตด้วยความสงบใน บาร์เซโลน่า รายล้อมไปด้วยครอบครัวของเขา หลังจากที่ได้อดทนฟันฟ่าต่อสู้ด้วยโรคร้าย มะเร็ง ที่คร่าชีวิตผู้คนมานับต่อนับ มันเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ พวกเราขอให้พวกคุณให้ความเคารพครอบครัวของ ครัฟฟ์ ในช่วงเวลาอันเศร้าโศกแบบนี้ ”

ประวัติของ ครัฟฟ์ นั้นอยู่กับ อาแจ็กซ์ อันเตอร์ดัม มาเนิ่นนานด้วยการช่วย อาแจ็กซ์ คว้าแชมป์เอเรดิวิซีลีกถึง 8 สมัยด้วยกัน จากนั้นในปี 1973 ครัฟฟ์ จากนั้นในปี 1974 ครัฟฟ์ นำทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ เข้าไปสู่ฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในปี 1974 อีกด้วยจนได้รับฉายาว่า “Total Football” ที่หมายความว่าผู้รอบรู้ในด้านฟุตบอลนั้นเอง  ต่อมาไม่นาน ครัฟฟ์ ได้ย้ายไปร่วมกับทีม บาร์เซโลน่า และได้ช่วย บาร์ซ่า คว้าแชมป์ ลาลีกา ถึง 4 สมัย, ยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส์ คัพ และ ยูฟ่า ในระหว่างปี 1988-1996 และในยุคที่ ครัฟฟ์ นั้นได้อำลาวงการฟุตบอล ครัฟฟ์ ก็ได้รับตำแหน่งเป็น ผู้ฝึกสอนนักเตะชั้นนำมากมายให้กับ บาร์เซโลน่า หลายคนด้วยกัน อาทิเช่น ลิโอเนล เมสซี่, อันเดรส อิเนียสต้า และ ชาบี้ เอร์นานเดซ เป็นต้น

 

อาร์แซน เวนเกอร์ นายใหญ่มากประสบการณ์ของ อาร์เซน่อล ออกโรงยกย่อง เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือมาดกวนของ ลิเวอร์พูล เป็นสุดยอดกุนซือชั้นนำ ทั้งคู่มีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกันและทุกคนก็ต้องเล่นตามแนวทางของตนเองเพื่อประสบความสำเร็จ โดยทั้งคู่จะต้องดวลกัน ในวันพุธนี้นั้นเอง

อาร์แซน เวนเกอร์ ผู้จัดการทีมประสบการณ์สูงของ อาร์เซน่อล สโมสรชั้นนำแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมากล่าวยกย่อง เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่อารมณ์ดีของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่าเป็นผู้จัดการทีมที่ยอดเยี่ยมอย่างมาก และมีสไตล์การทำทีมที่เป็นของตัวเองอย่างแท้จริง ก่อนที่ทั้งคู่จะนำลูกทีมมาดวลกันในศึกพรีเมียร์ลีก ในคืนวันพุธนี้นั้นเอง

“ผมคิดว่าเขาเป็นผู้จัดการทีมชั้นยอดอย่างมาก แต่เรามีสไตล์การทำทีมที่แตกต่างกันออกไป คุณต้องเคารพสิ่งนั้นอยู่เสมอ และคุณก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน ด้วยสไตล์การทำทีมและบุคลิกของตัวเอง ซึ่งทุกคนมีบุคลิกที่แตกต่างกันออกไป แต่ผมคิดว่าเขาทำได้ดีมากๆ และเขาจะพาทีมลิเวอร์พูล ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน เพราะลิเวอร์พูล เป็นทีมที่ใหญ่มากๆ”

“คุณต้องเล่นในสไตล์ของตัวเองและเชื่อในสิ่งที่คุณทำมาโดยตลอด และแน่นอนว่าคุณจะต้องเก่งกาจขึ้นอย่างแน่นอน เขาเป็นผู้จัดการทีมชั้นยอดอย่างแท้จริง และเขาทำได้ทุกอย่าง เรารู้ว่า ลิเวอร์พูล จะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เราเองก็จะมุ่งมั่นเพื่อเอาชัยชนะอย่างแท้ที่เช่นกัน” เวนเกอร์ กล่าว

 

มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน ห้องเครื่องตัวตัดเกมของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกโรงยอมรับว่า แข้ง “ผีแดง” ผิดหวังกับฟอร์มการเล่นอย่างมากในช่วงครึ่งเวลาแรก ในเกมที่บุกไปเยือน ลิเวอร์พูล จนส่งผลให้นักเตะบางคนระบายออกมาอย่างเต็มที่ในห้องแต่งตัว ชี้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะนักเตะทุกคนไม่ต้องการที่จะพ่ายแพ้ในเกมนัดนี้ นั้นเอง

มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน มิดฟิลด์ตัวเก่งชาวฝรั่งเศสของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมายอมรับอย่างแมนๆว่า นักเตะภายในทีมต่างหัวเสียอย่างมากระหว่างเกมในช่วงครึ่งเวลาแรก และมีการตะโกนใส่กันเองเพราะระบายอย่างเต็มที่ในห้องแต่งตัว ในการที่มีโชคบุกไปชนะ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่ขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในศึก “แดงเดือด” 0-1 ที่สนามแอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

“ในครึ่งแรกเราไม่สามารถครองบอลได้เลย และเราไม่สามารเก็บบอลได้เลยด้วยซ้ำ บางครั้งเราสามารถเอาชนะในการแย่งบอลในจังหวะแรกได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เราไม่สามารถแย่งบอลในจังหวะสองได้เลย หลังจากที่จบครึ่งแรก มีนักเตะบางคนตะโกนดังลั่น ซึ่งทุกอย่างมันเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ เพราะในเกมนี้นักเตะทุกคนก็ไม่ต้องการที่จะแพ้ในเกมนี้ด้วยซ้ำ และเราก็ยิ้มออกเพราะเราสามารถเอาชนะได้ด้วย” ชไนเดอร์ลิน กล่าว

 

อเล็กซ์ เตเซร่า มิดฟิลด์ตัวเก่งของสโมสรชัคเตอร์ โดเนตสค์ ได้ออกมากล่าวผ่านสื่อ ว่าตนเองมีความใฝ่ฝันที่จะได้เข้ามาเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ หลังจากที่ตกเป็นข่าวกับสองทีมใหญ่อย่าง สโมสรลิเวอร์พูลและสโมสรเชลซี โดยเจ้าตัวเปิดเผยอีกว่า ถ้าหากในช่วงหน้าหนาวไม่สามารถดำเนินเรื่องในการย้ายทีมได้ทัน ช่วงซัมเมอร์นี้ก็น่าจะได้คำตอบแน่ชัดแล้วว่า สโมสรใดจะได้ตัว กองกลางวัย 26 ปีไปร่วมทีม

อเล็กซ์ เตเซร่า ได้กล่าวว่า “ มันเป็นความใฝ่ฝันตั้งแต่ยังเด็ก ที่ผมจะได้ก้าวเข้ามาสัมผัสบรรยากาศในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นลีกที่มีตำนานที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าหากในช่วงมกราคมนี้ ตัวผมไม่สามารถที่จะย้ายทีมได้ทัน ก็น่าจะเป็นช่วงซัมเมอร์ หลังจากนั้นก็น่าจะได้รู้กันว่าผมตัดสินใจที่จะย้ายไปร่วมทีมใด แต่ตอนนี้ผมยังรู้สึกคิดหนัก เนื่องจากทาง ลิเวอร์พูล และ เชลซี ต่างก็เป็นยอดทีมที่ผมมีความต้องการย้ายไปร่วมทีมด้วยกันทั้งคู่ ”

ทั้งนี้ แดนกลางวัย 26 ปี ถือว่าเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นที่สุดคนหนึ่ง โดยสามารถทำประตูให้กับต้นสังกัดไปแล้ว 26 ประตู จากการลงสนามให้กับต้นสังกัดในฤดูกาลนี้ จนกลายเป็นนักเตะเนื้อหอมที่ทีมดังของอังกฤษ ต้องการคว้าตัวไปร่วมทีมให้ได้

เอแด็น อาซาร์ ปีกจอมเลื้อยของ เชลซี สโมสรชื่อดังในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเปิดใจว่า เขามีเป้าหมายของตัวเองว่าเขาจะต้องคว้าแชม์ในศึก ยูฟ่าแชมเปี้ยน ลีก ให้ได้ และถ้าหากทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส สนใจที่จะให้เขาเข้าไปโม่แข้งให้กับทีมคงจะเป็นเรืองที่เขาปฏิเสธได้ยาก เพราะเชื่อว่า “เปแอสเช” จะสามารถคว้าถ้วยนี้ได้

อาซาร์ ห้องเครื่องชาวเบลเยี่ยม ออกมาเผยเมื่อวันอังคารที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า มันคงเป้นเรื่องที่ผมต้องคิดหนัก ถ้าหากว่าทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง สนใจที่จะคว้าตัวเขาเข้าไปร่วมทัพด้วย เนื่องจาก “เปแอสเช” เป็นทีมหนึ่งที่มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมากและผมก็เชื่อว่าพวกเขาสามารถที่จะเป็นที่จะคว้าถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก ได้และอีกอย่างหนึ่งเป้าหมายสูงสุดของผมก็คือการคว้าแชมป์ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยน ลีก ให้ได้ แตอย่างไรก็ตามในตอนเมื่อยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นผมก็ต้องทำหน้าที่ของผมให้ดีที่สุดกับต้นสังกัดของผม

อาซาร์ แข้งชาวเบลเยี่ยม ได้ย้ายทีมมาจากทีม ลีลล์ เพื่อเข้ามาโม่แข้งให้กับทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัวถึง 32 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,696 ล้านบาท) แต่มาในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาเจ้าตัวได้กลายเป็นข่าวว่ามีแผนที่จะอำลารัง สแตม ฟอร์ดบิดจ์ มาโดยตลอด

 

ซามีร์ นาสรี่ ห้องเครื่องจอมอวดดีของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองฟิ้นฟูอาการบาดเจ็บได้เร็วกว่าที่วางแฟนไว้ และสัปดาห์หน้าจะกลับมาวิ่งฝึกซ้อมอีกครั้ง และจะได้ลงร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมอีกครั้งอย่างแน่นอน พร้อมมั่นใจว่าในช่วงเบรกเดือนมีนาคม กลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งอย่างแน่นอน

ซามีร์ นาสรี่ จอมทัพตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สโมสรมหาเศรษฐียักษ์ใหญ๋แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาเปิดเผยว่า ตนเองได้ตั้งเป้าที่จะลงสนามอีกครั้งในช่วงเดือน มีนาคม นี้อย่างแน่นอน หลังจากที่ได้หลังบาดเจ็บอย่างหนักมากๆ ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา พร้อมบอกต่อไปอีกว่า ตนเองจะกลับมาวิ่งในสนามได้อีกครั้งในสัปดาห์หน้าอย่างแน่นอน และต้องการลงเพื่อฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมแบบสุดๆ

“ตอนแรกหมอบอกว่าผมน่าจะได้พักอย่างน้อย 4-6 เดือน แต่ตอนนี้ผ่านไปได้ 2 เดือนแล้ว แน่นอนว่าอาการมันดีขึ้นอย่างมาก และผมตั้งเป้าที่จะกลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งในช่วงเดือนมีนาคมนี้”

“ผมทำได้ดีมากๆในการวางโปรแกรมเอาไว้ อตนนี้ทุกอย่างเริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว แต่ผมก็เริ่มกับมาฟื้นฟูในโรงยิมของทีมแล้ว และในสัปดาห์หน้า ผมจะเริ่มกลับมาวิ่งอีกครั้งในสนามฝึกซ้อม ซึ่งแน่นอนว่าผมจะได้กลับมาร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมอีกครั้งอย่างแน่นอน” ซามีร์ นาสรี่ กล่าว

 

เกิดข่าวสุดช็อค เมื่อเครื่องบินโดยสารของสายการบินลามียา ขึ้นบินจากประเทศโบลิเวียไปยังนครเมเดยิน ประเทศโคลอมเบีย ในทวีปอเมริกาใต้ โดยมีนักเตะชั้นนำของประเทศบราซิลเดินทางอยู่บนเที่ยวบินลำนี้

ประสบเหตุตกก่อนลงจอดในเมืองปลายทาง ส่งผลให้ลูกเรือและผู้โดยสารส่วนใหญ่เสียชีวิต ส่วนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า มีผู้รอดชีวิตเพียง 6 คน จากทั้งหมด 81 คน ในจำนวนนี้ เป็นทีมฟุตบอลสโมสรชื่อดังของบราซิล ชาเปโคเอนเซ เรอัล (Chapecoense Real) ซึ่งมีนัดแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระดับภูมิภาคอเมริกาใต้กับทีมฟุตบอลจากโคลอมเบีย ซึ่งจะลงฟาดแข้งกันในวันพุธที่ 30 พ.ย. แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นก่อน

นายเอลกิน ออสปิน่า นายกเทศมนตรีเมืองลา เซยา ใกล้จุดเกิดเหตุระบุว่า สาเหตุการตกน่าจะมาจากเชื้อเพลิงในเครื่องบินหมด อย่างไรก็ตาม ฝ่ายสืบสวนยังไม่ได้ให้ข้อมูลที่แน่ชัด ขณะที่สมาพันฟุตบอลอเมริกาใต้ประกาศยุติการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศดังกล่าวไว้ชั่วคราวจนกว่าจะมีความชัดเจนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

เป็นข่าวที่สุดช็อก เมื่อเกิดเหตุเครื่องบินตก โดยเที่ยวบินนี้มีนักเตะทีมดังชั้นต้นของประเทศบราซิล ที่เดินทางเตรียมตัวไปแข่งขันเกมส์รอบชิงชนะเลิศในวันถัดไป เที่ยวบินนี้ได้มีนักเตะของ ชาเปโคเอนเซ่ สโมสรดังในลีกสูงสุด แดนบราซิล โดยเกมส์นัดนี้จะลงแข่งขันศึกโคปา ซูดาอเมริกาน่า รอบชิงชนะเลิศ นัดแรก กับ แอตเลติโก นาซิอองนาล

ผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเตด ทีมดังจากสโมสรพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เจอทีมหินอย่างบาร์เซโลนา ที่จ้องจะมาคว้าตัวนักเตะที่ได้เล็งเอาไว้ “เกลส์สัน มาร์ติน ” มิดฟิลด์ตัวเก่งของสปอร์ติง ลิสบอน โดยก่อนหน้านี้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ทำการเปิดเผยว่ายินดีที่จะจ่ายค่าฉีกสัญญาของมาร์ติน เพื่อกระชากตัวเขาเข้ามาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะในสังกัดของผีแดง แต่กลับมีข่าวว่าบาร์เซโลน่าก็จ้องจะกระชากดาวรุ่งรายนี้ด้วยเช่นกัน

กลายเป็นงานหนักของแมนเชสเตอร์ ยูไนเตด ที่มีคู่แข่งจะมาแย่งตัว”เกลสัน มาร์ติน”มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีมสปอร์ติง ลิสบอน จากที่ก่อนหน้านี้ทางฝ่ายของแมนเชสเตอร์ ยูไนเตด ได้เผยว่าพร้อมจ่ายค่าฉีกสัญญา 52 ล้านปอนด์ในการคว้ามิดฟิลด์รายนี้เข้ามาเซ็นสัญญาร่วมทีม แต่แล้วก็มีข่าวจากถิ่นสเปน ได้เปิดเผยว่าบาร์เซโลนา ทีมสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน ร่วมวงกระชากตัวแข้งรายนี้ร่วมทีมด้วยเช่นกัน ทำให้ผีแดงถึงกับกังวลว่าอาจชวดได้

งานนี้จึงทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความกังวล เพราะบาร์เซโลนาเป็นทีมใหญ่ และเป็นทีมดังที่นักเตะหลายคนอยากร่วมทีมด้วย ถ้าหากทางบาร์ซ่าตัดสินใจคว้ามิดฟิลด์รายนี้จริง คงเป็นเรื่องยากของแมนเชสเตอร์ ยูไนเตดไปในทันทีที่จะไปแข่งกับบาร์เซโลนาในการเจรจาขอซื้อนักเตะรายนี้มาเสริมทัพ

 

มามาดู ซาร์โก’กองหลังเลือดน้ำหอมของทีมหงส์แดง ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่าในเดือนมกราคมที่จะถึงนี้ เจ้าตัวจะถูกทีมต้นสังกัดลิเวอร์พูล เฉดหัวออกจากทีมอย่างแน่นอน หลังจากมีกระแสข่าวว่าเจ้าตัว ซาร์โก้ ได้มีปัญหากับทางผู้จัดการทีม เจอร์เก้น ครอปป์ ตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่นที่ผ่านมา จนส่งผลให้เขาไม่มีรายชื่อลงสนามแข่งขันมาจนถึงปัจจุบัน

มามาดู ซาร์โก กองหลังวัย 26 ปี ยังไม่มีโอกาสลงสนามเล่นให้กับทีมลิเวอร์พูลชุดจ่ายแม้แต่นัดเดียว หลังจากเจ้าตัวถูกทางต้นสังกัดลิเวอร์พูล ส่งกลับบ้านเพราะมีปัญหาเรื่องวินัย ทำให้ผู้จัดการทีม”เจอร์แก้งครอปป” ไม่พอใจ และเลือกที่จะไม่ให้เค้าลงแข่งต่อไป โดยก่อนหน้านี้เจ้าตัวซาร์โก้ ได้ย้ายมาจากทีมปารีส-แซงต์ เชร็กแมง ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ เพื่อมาร่วมทีมกับทางหงส์แดง ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2013 รวมแล้วลงเล่นให้กับทีมไปทั้งหมด 80 เกมส์แต่ทำได้เพียง 3 ประตูเท่านั้น

งานนี้สื่อฝรั่งเศส ได้ตีข่าวว่ามีความเป็นไปได้ 99.9% ที่เจอร์เก้น คลอปป ผู้จัดการทีมของหงส์แดง ลิเวอร์พูล จะไม่มอบโอกาสให้ มามาดู ซาร์โก’ได้แก้ตัว และมั่นใจว่าซาร์โก ได้หมดอนาคตภายใต้ทีมการดูแลทีมของเจอร์เก้น ครอปป์ หน่วยงานนี้ก็ยังไม่มีทีมใด ที่ออกมาเผยว่าต้องการจะคว้า “มามาดู ซาร์โก”เข้าร่วมทีมด้วย